ได้ผู้มาอยู่ต่างประเทศใหม่สงสัยสูอีหยังว่ะ🤭 ชะนีงง⁉️ในดงฝาหรั่ง
Eurovision Song Contest คืออะไร? ทำไมคนยุโรปถึงอินกันนัก?
>นี่ไม่ใช่แค่การประกวดร้องเพลงธรรมดา แต่มันคือ “สงครามนุ่ม ๆ ทางวัฒนธรรม”
ที่แต่ละประเทศส่งนักร้องตัวแทนมาโชว์พลัง ปล่อยความจัดจ้าน และแอบประชัน soft power แบบเผ็ดลืม!
ประวัติ Eurovision: เริ่มยังไง ใครคิด?
ย้อนกลับไปปี 1956 หลังสงครามโลกยุโรปยังกรุ่น ๆ
สหภาพกระจายเสียงแห่งยุโรป (EBU) คิดโปรเจกต์นี้ขึ้นมาเพื่อ:
ฟื้นฟูจิตใจ
สร้างความร่วมมือผ่านเสียงเพลง
เปิดเวทีให้ประเทศในยุโรปได้ประชันกันแบบสร้างสรรค์
ปีแรกมีแค่ 7 ประเทศ เข้าร่วม
วันนี้ (2025) มีมากกว่า 40 ประเทศ รวมถึงชาติที่ไม่ใช่ยุโรปแท้ ๆ อย่าง ออสเตรเลีย ก็ร่วมด้วย!
ใครส่งเพลงได้บ้าง?
ประเทศที่เป็นสมาชิกของ EBU
ต้องคัดเลือกศิลปินและเพลงภายในประเทศ (จะประกวดแบบเรียลลิตี้ หรือแต่งตั้งก็ได้)
เพลงที่จะใช้แข่งขัน: ไม่ใช่ส่งมั่ว ๆ ได้เด้อ!
กติกาหลักของเพลง Eurovision:
1. ต้องเป็นเพลงใหม่
ห้ามเผยแพร่ก่อน 1 กันยายน ปีก่อนการแข่งขัน
2. ความยาวไม่เกิน 3 นาที
เกิน = ตัดสิทธิ์ทันที
3. เนื้อหาห้ามมีการเมือง ศาสนา ความเกลียดชัง
ต้องไม่ล่อแหลมหรือโจมตีใคร
4. ร้องได้ทุกภาษา
จะร้องภาษาพื้นเมือง อังกฤษ หรือแม้แต่ภาษาต่างดาวก็ไม่ผิด
5. ห้ามมีนักแสดงบนเวทีเกิน 6 คน
6. เล่นดนตรีสดไม่ได้
ทุกเสียงดนตรีมาจาก backing track
นักร้องต้องร้องสด 100%
การตัดสิน: คะแนนมาจากไหน?
> คะแนน Eurovision มาจาก 2 แหล่ง กรรมการ (Jury) + คนดู (Televote)
สัดส่วนคะแนน = 50% ต่อ 50%
Jury: ผู้เชี่ยวชาญด้านเพลงในแต่ละประเทศ
Televote: คนดูโหวตสดผ่านโทรศัพท์, SMS หรือแอป
วิธีให้คะแนน:
แต่ละประเทศให้คะแนน 10 เพลงที่ชอบที่สุด
แจกแต้ม: 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 10 และ 12 คะแนน
ห้ามโหวตให้ประเทศตัวเอง!
การประกาศผล:
1. เริ่มจากคะแนนกรรมการ (แต่ละประเทศขึ้นโชว์)
2. ตามด้วยคะแนนคนดู (รวมทั่วทวีป)
จุดพีค! เพราะคะแนนคนดูอาจทำให้ผู้ที่นำ กลายเป็นแพ้ได้ในพริบตา!
Big Five คือใคร?
กลุ่มประเทศผู้สนับสนุนหลักของ EBU ได้สิทธิพิเศษคือ
เข้ารอบชิงทันทีทุกปี ไม่ต้องแข่งรอบรอง ได้แก่:
ฝรั่งเศส (France)
เยอรมนี (Germany)
อิตาลี (Italy)
สเปน (Spain)
สหราชอาณาจักร (United Kingdom)
Eurovision ไม่ใช่แค่เวทีร้องเพลง แต่มันคือเวที “พีคระดับชาติ!”
ใครที่ได้แชมป์ = เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ
ศิลปินหลายคนแจ้งเกิดจากเวทีนี้ เช่น
ABBA (สวีเดน)
Céline Dion (แคนาดาแต่แข่งให้สวิตเซอร์แลนด์)
มีเพลง iconic สุด ๆ ที่ยังดังใน TikTok จนทุกวันนี้ เช่น
“Euphoria” – Loreen
“Toy” – Netta
“Cha Cha Cha” – Käärijä
---
สรุปแบบชะนีเลยา:
> “Eurovision ไม่ใช่แค่ร้องดีแล้วจะรอด มันต้องครบสูตร:
เสื้อผ้าต้องจึ้ง, เพลงต้องติดหู, โชว์ต้องปัง, และมีพลังปลุกใจคนทั้งทวีป!”
ใครอยากเข้าใจวัฒนธรรมยุโรปผ่านความสนุก Eurovision คือคำตอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น